การจะเป็นเจ้าของรถที่มีความรับผิดชอบไม่ได้หมายถึงการเลือกรถยนต์ที่เหมาะสมหรือรู้วิธีการดูแลรักษารถยนต์พื้นฐานเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมีความสามารถที่จะป้องกันเหตุการณ์ที่อาจทำให้คุณต้องเสียรถและเงินเก็บทั้งชีวิตในอนาคตด้วย วิธีง่ายๆที่เจ้าของรถสามารถทำได้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว แต่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึงก็คือ การทำประกันรถยนต์นั่นเอง
การซื้อประกันก็เหมือนกับการซื้อถังดับเพลิง คุณหวังว่าจะไม่ต้องได้ใช้ แต่คุณรู้สึกปลอดภัยที่รู้ว่ามีอยู่ในครอบครอง เพียงเพราะคุณมั่นใจในความสามารถในการขับรถของตน ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรระมัดระวังอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดจากผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ หากคุณมีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับราคาประกันรถยนต์ที่อาจสูงเหลือเกิน คุณสามารถหาคำตอบได้จากที่นี่!
สิ่งที่กฎหมายระบุ
เมื่อคุณซื้อรถไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม คุณต้องตรวจสอบว่ากฎหมายในประเทศนั้นมีประกันรถยนต์ภาคบังคับหรือเปล่า ในประเทศไทย เจ้าของรถทุกคนต้องมี ประกันรถยนต์ภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.) ประกันรถยนต์ประเภทนี้ครอบคลุมผู้โดยสารและบุคคลที่สามที่อาจเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติที่เหตุที่เกิดขึ้นโดยมีรถของคุณเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
สิ่งที่รถของคุณต้องการ
นอกเหนือจากประกัน พ.ร.บ. แล้ว คุณอาจจะเพิ่มความคุ้มครองของประกันรถยนต์เพื่อให้ครอบคลุมอุบัติเหตุบนท้องถนน การสูญหายของรถยนต์ หรือภัยธรรมชาติ การเพิ่มความคุ้มครองของประกันรถยนต์จะเป็นประโยชน์มากหากยานพาหนะของคุณราคาสูง หรืออาศัยอยู่ในย่านที่มีความเสี่ยงสูง
ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ขึ้นอยู่กับหลายอย่างด้วยกัน หลักๆ เลยก็คือ มูลค่าของยานพาหนะของคุณ ตามหลักแล้ว เบี้ยประกันรถใหม่จะสูงกว่ารถมือสองด้วยปัจจัยอย่างค่าเสื่อมราคา เป็นต้น
หากคุณกำลังซื้อรถใหม่ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือตัวแทนขายประกันรถยนต์อาจมาจากบริษัทลูกของบริษัทใหญ่หรือนำรายนามบริษัทประกันรถยนต์ที่เชื่อถือได้มาให้คุณได้เลือกซื้อ
ตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาด
เจ้าของรถชาวไทยอาจซื้อประกันภัยรถยนต์แบบสมัครใจซึ่งนอกเหนือจาก พ.ร.บ. เพื่อรับประโยชน์จากความคุ้มครองอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งนี้ ประกันภัยรถยนต์แบบสมัครใจมีอยู่ 3 ประเภทหลัก คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 นอกจากสามประเภทดังกล่าว คุณอาจเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ราคาย่อมเยาว์ลงมา โดยประกันรถยนต์แต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองมากไปหาน้อยตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่า ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า ย่อมมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์สูงกว่า และในการเลือกก็ย่อมขึ้นอยู่กับการใช้รถและตัวคนขับเอง เช่น ถึงแม้คุณจะขับรถมาเป็นระยะเวลานาน แต่ ถ้าต้องใช้รถในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น คุณควรพิจารณาซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะคุณต้องเจอกับความเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุหรือการสูญหายมากกว่าคนที่อยู่ในเมืองเล็กที่สงบเงียบและรถน้อย ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว คุณก็จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันรถยนต์ตามรายละเอียดกรมธรรม์ของบริษัทนั้นๆ
สิ่งที่ต้องจำ
หากคุณจ่ายไหว คุณอาจเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มอบความคุ้มครองทั้งหมดข้างต้น ให้อ่านกรมธรรม์ให้ดีๆ เพราะผู้ให้ประกันมักมีข้อยกเว้นในความคุ้มครอง เช่น กรณีที่รถเป็นรถต่างชาติ เป็นต้น
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ในราคาที่สูงเกินควร คุณควรหาข้อมูลเรื่องของปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้ราคาประกันรถยนต์ถูกลงหรือสูงขึ้น เช่น อายุ สถานที่ ประวัติการขับขี่ และจุดประสงค์ของการใช้รถว่าเป็นการใช้ส่วนตัวหรือทางพาณิชย์
ในฐานะเจ้าของรถ คุณควรมีความระมัดระวังก่อนจะซื้อประกันรถยนต์ เพราะอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีมาขายประกันรถยนต์ปลอมในราคาที่ถูกมาก ไม่ว่าคุณจะกำลังทำประกันรถยนต์แบบไหน คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังทำประกันภัยกับบริษัทที่น่าเชื่อถือและดำเนินการอย่างถูกกฎหมายด้วย