ลู่วิ่งในท้องตลาดมีมากมายหลายรุ่นหลายราคา โดยแต่ละตัวเองก็จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะต่างกัน ดังนั้นสิ่งแรกคือการประเมินการใช้งานของตัวเองก่อน ให้ลองตั้งคำถามในการใช้งานดังนี้
1. ความเร็วที่ใช้วิ่งออกกำลังกาย
ความเร็วของมอเตอร์เป็นความสามารถหนึ่งของลู่วิ่ง โดยเราจะคุยกันในเรื่องของหน่วย ‘แรงม้า’ แน่นอนว่ายิ่งแรงม้าสูงยิ่งมีราคาแพง เพราะต้องใช้มอเตอร์ที่คุณภาพสูงมากขึ้น มีคำแนะนำดังนี้
1 แรงม้า สำหรับใช้เดิน
2 แรงม้าขึ้นไป ใช้วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ
3 แรงม้าขึ้นไป ใช้วิ่งเร็ว ซ้อมลงคอร์ท
ตรงนี้สามารถนำข้อมูลไปใช้ดูสเปคที่ต้องการ หรือคุยกับพนักงานขายได้
** หน่วยแรงม้าตามสเปคของลู่วิ่งไฟฟ้า มักจะแจ้งด้วยตัวเลขแรงม้าสูงสุดที่เครื่องจะทำได้โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาในการใช้งาน ก่อนซื้อควรตรวจสอบการเวลาใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุดด้วย
2. รูปแบบการใช้งาน
คุยกันต่อจากความเร็วที่ใช้ในการวิ่งด้วยหน่วยแรงม้า รูปแบบการใช้งานก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
ลู่วิ่งแบบที่ฟิตเนสเลือกซื้อ จะใช้เป็นมอเตอร์แรงม้าค่อนข้างสูงเอาไว้ก่อน เกิน 5 ขึ้นไป เพื่อรองรับนักวิ่งหลากหลายรูปแบบ พร้อมกับการระบายความร้อนที่รองรับใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมงติดกัน
หากใช้งานในบ้านเพียงคนเดียว ก็สามารถเลือกซื้อหาตัวเลขแรงม้า 2-3 ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเผื่อมอเตอร์สำหรับการใช้งานหลายชั่วโมง
3. สรีระของผู้ใช้
ให้ลองสำรวจผู้ใช้เองในแง่ของรูปร่าง ทั้งขนาดตัวและน้ำหนัก เพราะเป็นปัจจัยที่เราต้องนำไปใช้สำหรับการเลือกขนาดของสายพาน ทั้งความกว้างและความยาว รวมไปถึงความสบายในการวิ่งด้วย
ยิ่งกว้างยิ่งวิ่งสบาย ยิ่งยาวยิ่งรองรับช่วงขาที่ยาว
ให้พิจารณาจากความกว้างและยาวที่เป็นหน่วยเซ็นติเมตรของสายพาน โดยไม่นับรวมที่พักเท้า
4. ระบบการลดแรงกระแทก
ความได้เปรียบของการวิ่งบนสายพานนั้น นอกจากจะช่วยยืดอายุรองเท้าสุดรักของนักวิ่งแล้ว ลู่วิ่งสมัยใหม่จะมีระบบที่ช่วยลดแรงกระแทกของการลงน้ำหนักเท้าด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักมาก อยากออกกำลังกาย จะเซฟกว่าวิ่งถนนพอสมควร
ซึ่งลู่วิ่งแต่ละรุ่นก็จะมีระบบซับแรงกระแทกไม่เหมือนกัน แน่นอนละครับ ว่ายิ่งดีมากก็ยิ่งราคาสูง
ในส่วนนี้จำเป็นต้องดูสเปคที่ต้องการ สอบถามพนักงานขาย เพราะเทคโนโลยีในแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ จะใช้เทคโนโลยีที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะค่อนข้างกว้างมาก เหมือนเราคุยกันว่าอยากได้รองเท้านิ่มๆ สักคู่หนึ่ง ไปจบที่ตัวไหนดี
5. ตัวเลือกความสุนทรีย์
เราใช้เวลาออกกำลังกายอยู่บนสายพานนานเป็นชั่วโมงเพียงคนเดียว ด้วยภาพเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ อาจทำให้เบื่อง่าย และกลายร่างเป็นราวตากผ้าได้
ดังนั้นหากคุณมีงบประมาณที่ยืดหยุ่นพอ ก็สามารถเพิ่มความสุนทรีย์ให้ลู่วิ่งได้ เพื่อที่เราจะได้มีความฟินในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีของลู่วิ่งสมัยใหม่เองก็ทำมาซัพพอร์ตในส่วนนี้ค่อนข้างดีมากในปัจจุบัน เช่น
หน้าจอ LCD เชื่อมต่อกับ bluetooth สำหรับดูรายการผ่านอินเตอร์เน็ต หรือแสดงเส้นทางวิ่งให้เหมือนกับว่าเราวิ่งอยู่บนถนน
โปรแกรมสำหรับการซ้อมวิ่ง ปรับความเร็วและความชันให้อัตโนมัติ
แท่นวางโทรศัพท์-แท็ปเล็ต
คันโยก เพิ่ม-ลด ความเร็วลู่วิ่ง เพิ่มความสะดวกในการควบคุมการวิ่ง
แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว ความชัน จำนวนแคลอรี ฯลฯ